The Princess Bride (1987) Movie Review: The Princess Bride
The Princess Bride (1987) Movie Review: The Princess Bride
Blog Article
รีวิวหนัง The Princess Bride (1987) นิทานเจ้าหญิงทะลุตำนาน
ประเภทของภาพยนตร์: ผจญภัย/แฟนตาซี/ตลก
วันที่เข้าฉาย: 25 กันยายน 2530
ผู้กำกับ: Rob Reiner
นักแสดงนำ: Cary Elwes/Mandy Patinkin/Chris Sarandon/Christopher Guest/Wallace Shawn/André the GiantRobin Wright/Peter Falk/Billy Crystal
ความยาว : 98 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนัง 2024 เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อคุณปู่คนหนึ่งอ่านนวนิยายให้หลานชายที่ป่วยฟัง ซึ่งหลานชายในตอนแรกดูเหมือนไม่ค่อยสนใจเนื้อหาในหนังสือเลย นวนิยายเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ บัตเตอร์คัพ หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในฟาร์มในอาณาจักรฟลอริน ซึ่งเป็นอาณาจักรในจินตนาการ เวสลีย์ คนงานฟาร์มผู้มีหัวใจซื่อสัตย์ ทำทุกอย่างที่บัตเตอร์คัพสั่งเสมอ และคำตอบที่เขาพูดทุกครั้งคือ "ตามใจคุณ" ทั้งสองค่อย ๆ ตกหลุมรักกัน และเวสลีย์ตัดสินใจออกเดินทางไปแสวงหาโชคลาภเพื่อที่จะแต่งงานกับเธอ แต่แล้ว เวสลีย์ก็ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตหลังจากเรือของเขาถูกโจรสลัดโจมตี
ห้าปีต่อมา บัตเตอร์คัพถูกบังคับให้หมั้นหมายกับเจ้าชายฮัมเปอร์ดิงก์แห่งฟลอริน แต่ก่อนที่การแต่งงานจะเกิดขึ้น เธอกลับถูกลักพาตัวโดยคนนอกกฎหมายสามคน ได้แก่ วิซซินี ชาวซิซิลีผู้มีสติปัญญาเฉียบคม, เฟซซิก ยักษ์ใหญ่จากกรีนแลนด์, และอินิโก มอนโตยา ปรมาจารย์การฟันดาบชาวสเปนผู้ต้องการแก้แค้นชายหกนิ้วที่ฆ่าพ่อของเขา ท่ามกลางการลักพาตัวนี้ ชายสวมหน้ากากสีดำก็ตามล่าพวกเขา รวมทั้งเจ้าชายฮัมเปอร์ดิงก์และทหารของเขาด้วย
ชายสวมหน้ากากดำขึ้นไปบนหน้าผาแห่งความบ้าคลั่ง และเอาชนะอินิโกในการดวลฟันดาบ ทำให้เขาหมดสติ ต่อมาเขาก็จัดการกับเฟซซิกจนหมดแรง และหลอกให้วิซซินีดื่มยาพิษร้ายแรงไปได้ ชายสวมหน้ากากพาบัตเตอร์คัพหนีไป ในที่สุดบัตเตอร์คัพก็เดาถูกว่าชายผู้นี้คือโจรสลัดโรเบิร์ต และตำหนิเขาที่เป็นต้นเหตุการตายของเวสลีย์ ก่อนที่เธอจะผลักเขาลงจากหน้าผา แต่ขณะที่เขาตกลงไป เขาตะโกนว่า "ตามใจคุณ" บัตเตอร์คัพรู้ทันทีว่าชายคนนั้นคือเวสลีย์ และเธอจึงกระโจนลงไปหาตามเขา ทั้งคู่จึงได้พบกันอีกครั้ง
พวกเขาหลบหนีผ่านหนองน้ำไฟเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าชายฮัมเปอร์ดิงก์ เวสลีย์อธิบายว่า "โจรสลัดโรเบิร์ตผู้หวาดกลัว" เป็นตำแหน่งที่ส่งต่อกัน และเขาก็รับตำแหน่งนี้มาจากโจรสลัดคนก่อน ฮัมเปอร์ดิงก์สามารถจับตัวทั้งคู่ได้ บัตเตอร์คัพยอมกลับมากับเจ้าชายหลังจากเขาสัญญาว่าจะปล่อยตัวเวสลีย์ แต่กลับสั่งให้เคานต์รูเกนพาเวสลีย์ไปที่หลุมแห่งความสิ้นหวังเพื่อทรมาน
เมื่อบัตเตอร์คัพเริ่มสงสัยว่าเจ้าชายฮัมเปอร์ดิงก์ไม่ได้ตามหาเวสลีย์ตามที่สัญญาไว้ เธอจึงเรียกเขาว่าคนขี้ขลาด ฮัมเปอร์ดิงก์โกรธจัดและขังบัตเตอร์คัพไว้ พร้อมกับสั่งให้ทรมานเวสลีย์จนแทบหมดลมหายใจ เฟซซิกและอินิโกที่ตามหาเวสลีย์ในป่า พบร่างของเขาและพาไปหาหมอพื้นบ้าน มิราเคิลแม็กซ์ ซึ่งสามารถช่วยชีวิตเวสลีย์ได้ แม้เขาจะยังอ่อนแรงมาก
ในขณะที่เวสลีย์ อินิโก และเฟซซิกบุกเข้าไปในปราสาท เจ้าชายฮัมเปอร์ดิงก์ก็ตื่นตระหนกและสั่งให้พิธีแต่งงานดำเนินไปอย่างรวดเร็ว อินิโกตามหารูเกนและสามารถล้างแค้นให้พ่อของเขาได้สำเร็จ เวสลีย์พบบัตเตอร์คัพและช่วยเธอไว้ก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตาย ทั้งคู่พบกันอีกครั้ง ฮัมเปอร์ดิงก์พยายามดวลกับเวสลีย์ แต่ก็ถูกเวสลีย์ขู่จนยอมแพ้ อินิโกและเฟซซิกได้ม้าเพื่อพาทุกคนหนีไป และเวสลีย์ก็เสนอตำแหน่งโจรสลัดให้กับอินิโก เมื่อรุ่งสาง ทั้งคู่ก็จูบกันอย่างดูดดื่ม
เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง หลานชายที่ป่วยขอให้คุณปู่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ปู่ยิ้มและตอบว่า "ตามใจคุณ"
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
การดูหนังแฟนตาซีที่ไม่สอดคล้องกับอายุอาจเป็นปัญหาของตัวเอง พออายุถึง 24 ปี การดูหนังแนวแฟนตาซีที่เคยรู้สึกว้าวในวัยเด็กก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะกับหนังที่โลกสดใส มีการเล่าเรื่องที่คาดเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกอย่างอาจดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่คาดหวัง mvhd24.com
"เหมาะสำหรับเด็กมากกว่า" คงไม่ผิดถ้ารู้สึกเช่นนี้หลังดูจบ เพราะตลอดทั้งเรื่องก็เป็นไปแบบง่ายๆ ในสไตล์ที่เด็กดูแล้วเข้าใจได้ทันที ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีเนื้อหาที่ทำให้คิดถึงความเป็นมามากมาย แม้แต่ตัวละครยังแบ่งแยกเป็นขาวดำชัดเจน มีความเทาๆ บ้างเล็กน้อย ไม่มีอะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ นอกจากการจับผิดบางประเด็นที่แทรกไว้ในเรื่องให้สังเกตแล้วจะพบว่า หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องง่ายๆ แต่ก็สนุกได้อย่างไร
เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็นสองโลกคือ โลกความจริงและโลกนิทาน โลกความจริงนั้นคือฉากที่ปู่ (Peter Falk) เล่านิทานให้หลาน (Fred Savage) ฟังก่อนนอน ความน่าสนใจอยู่ที่คำถามและความต้องการของหลาน นิทานมักเล่าเรื่องความรักของพระเอกนางเอก ที่มักจบลงด้วยการจูบกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของความรัก แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่หลานอยากฟัง เพราะมันซ้ำซากและจำเจ แล้วปู่จะเล่าอย่างไรให้หลานอยากฟัง?
สไตล์ของหนังเป็นแฟนตาซีที่ดูเป็นเด็กๆ ไร้พิษภัย มีบางฉากที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเด็ก แต่ภายใต้ความไร้เดียงสานั้นกลับแฝงด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความชาญฉลาดที่ถูกท้าทายจากหลาน ความสนุกของหนังอยู่ที่จังหวะที่ตัวเล่าเรื่องถูกขัดหรือทักท้วงด้วยข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล ทำให้รู้สึกเหมือนการทลายโลกจินตนาการ ปู่จึงต้องแสดงทักษะในการอธิบายจนทำให้หลานยอมรับในที่สุด เป็นการประชันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ที่ดูน่าสนใจ
"The Princess Bride" ไม่ได้มีฉากที่ยิ่งใหญ่หรือดูมีทุนสร้างสูง รายละเอียดในหนังหลายอย่างก็เรียบง่ายและธรรมดา แต่เน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกับผู้ชม ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจดจำ มีความแตกต่างและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวละครแต่ละตัวก็ตีบทแตก ทำให้มุขตลกในเรื่องนี้มีตั้งแต่ง่ายจนถึงยาก ทั้งแบบที่เข้าใจทันทีและต้องคิดตาม ชวนให้นึกถึง "Monty Python and the Holy Grail" (1975) แม้จะไม่ฮาเว่อร์วังถึงขนาดนั้น แต่จังหวะบางครั้งก็มีความกวนและเสียดสีที่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย
แม้ดูผิวเผินหนังจะเป็นแฟนตาซีที่เดินเรื่องตามสูตร ไม่มีความสดใหม่ แต่กลับมีความธรรมดาที่แฝงไปด้วยการกัดจิกตัวเองและสะท้อนความจริงเกี่ยวกับนิทานหรือนิยายที่มีแบบเดิมๆ ยอมรับว่าชอบการนำเสนอประเด็นเหล่านี้ ทำให้เห็นความแตกต่างและกล้าที่จะแซวตัวเองผ่านมุมมองของโลกจริงและโลกนิทาน น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ต่อยอดประเด็นเหล่านี้อย่างเข้มข้น ทำให้เรื่องราวจบลงไปเฉยๆ ยกเว้นถ้าคุณชอบหรือหลงใหลในแนวแฟนตาซีจริงๆ ถึงจะรู้สึกมีความสุขกับเรื่องนี้มาก
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #ThePrincessBride #นิทานเจ้าหญิงทะลุตำนาน
กลับด้านบน Report this page